สวัสดีค่ะ sis bro ทุกคน เรานักเรียนทุนป.ตรีสดๆร้อนๆ ปี 2017 นี้เองค่ะ กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยซุนยัตเซ็น ( Sun Yat-Sen university,中山大学)คณะการจัดการการท่องเที่ยวค่ะ ( Tourism Management , 旅游学院)อ่ะจ่ะ น้องบรรยายสรรพคุณของตัวเองมาพอแล้ว มาค่ะมาเข้าสาระกันดีกว่าค่ะ
จุดประสงค์ของกระทู้นี้คือ
- เราต้องการจะบอกทุกๆคนว่าการขอทุนไม่ได้น่ากลัว และการไปเรียนต่างประเทศ โดยเฉพาะที่จีน มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะจ๊ะ
- กระทู้นี้เป็นกระทู้แก้บนด้วยค่ะ 555 แล้วก็อยากแชร์ประสบการการขอทุนที่มีขั้นตอนค่อนข้างซับซ้อนให้รุ่นน้องที่โรงเรียนด้วย
- เนื่องจากทุนรัฐบาลจีนสำหรับป.ตรี (CSC, 中国政府奖学金) เพิ่งเปิดสำหรับป.ตรีมาแค่ 2-3ปี จึงมีข้อมูลสำหรับป.ตรีค่อนข้างน้อย เราเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์เราแบบไม่กั๊กเลย
การเตรียมตัวสำหรับการขอทุนคือ
- เตรียมใจให้พร้อมค่ะ ว่าเราจะสามารถพาตัวเราไปทำเอกสารเยอะแยะตั่งต่างได้รึป่าว เพราะเอกสารสำหรับการขอทุนเยอะและต้องละเอียดจริงๆค่ะ เพราะส่วนมากเป็นเอกสารราชการที่ต้องประทับตราค่ะ โรงเรียนบางโรงเรียนอาจจะไม่ออกให้ง่ายๆค่ะ เอกสารตัวไหนที่คิดว่าต้องใช้เวลานาน ควรเตรียมล่วงหน้านะคะ
- หา motivation สำหรับการขอทุน สำหรับเรา ทุนคือของหวาน (อินเนอร์มธุสรนิดๆ) เพราะทุนรัฐบาลจีนคือฟรี 100%ค่ะ ไม่ต้องกลับมาทำงานใช้ทุน ให้ค่าเรียน ค่าหอ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว พูดได้ว่าเป็นทุกอย่างให้เธอแล้วจริงๆค่ะ ดีขนาดนี้ ฟรีขนาดนี้ ทำไมจะไม่ลองขอดูล่ะคะ มูฟออนค่ะ ไปหาข้อมูลกัน!!!
เราจะแบ่งขั้นตอนเป็นก่อนการสมัคร / ขั้นตอนการสมัคร / หลังการสมัคร เป็น 3 พาร์ทแบบนี้เพื่อความเข้าใจง่ายนะคะ
พาร์ทก่อนการสมัคร
- ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักทุนรัฐบาลจีน(中国政府奖学金)กันพอประมาณก่อนดีกว่า
ทุนรัฐบาลจีนคืออะไร??
(http://inter.mua.go.th/2017/03/ทุนรัฐบาลจีนประจำปีการ/#.WpUH2maB1mB)
ลิ้งค์นี่บอกความเป็นมาแบบสังเขปแล้วนะคะ ที่จริงในลิ้งค์มีรายละเอียดและข้อกำหนดของการขอทุนอยู่บ้างแล้ว สามารถเข้าไปอ่านทำความขำใจก่อนได้เลยค่ะ
- เช็ค ranking ของมหาวิทยาลัยในจีนค่ะ เพราะส่วนตัวเราคิดว่า ranking เป็นแรงจูงใจอย่างหนึ่งที่ทำให้เราอยากไปเรียนมหาวิทยาลัยนั้นๆ เพราะยิ่งอันดับของมหาวิทยาลัยยิ่งสูงมากเท่าหร่ การลงทุนของรัฐบาลที่มีต่อการศึกษาก็มากขึ้นไปเท่านั้น ยกตัวอย่างมหาวิทยาลัยที่ทุกคนรู้จัก เช่น Beijing University (北大),Tsinghua(清华) เรามาดูตัวเลขเด็ดในการเช็คลำดับมหาวิทยาลัยกันดีกว่าค่าา 211,985 สองตัวนี้จำให้แม่น!
- 211 คือมหาวิทยาลัยรัฐบาลที่ดีในจีน มี 114 แห่ง
- 985 คือมหาวิทยลัยที่ดีที่สุดในจีน 39 แห่ง
![]() |
ตัวอย่างบางส่วนของมหาวิทยาลัยในกลุ่ม 985
ที่มา : http://www.huanqiumil.com/a/19170.html
|
พาร์ทขั้นตอนการเตรียมเอกสารและการสมัคร
1. เว็บที่ต้องรู้ในการสมัครทุนมี 2 เว็บหลักๆค่ะ
เว็บนี้สำหรับการศึกษาหาข้อมูลเพื่อเช็ครายละเอียดเอกสารต่างๆและข้อกำหนดที่ใช้สำหรับการขอทุนค่ะ ขอย้ำเลยว่าขอให้ทุกคน***อ่านหลายๆรอบ อ่านให้ละเอียด*** เว็บนี้จะมีทั้งเวอร์ชั่นภาษาไทยและภาษาจีนนะคะ ^^
![]() |
ตัวอย่างรายละเอียดเว็บ |
เว็บนี้สำหรับการเช็คข้อมูลและสมัครออนไลน์
- เช็คข้อมูลคือ เช็คว่ามีมหาวิทยาลัยไหนบ้างที่มีทุนรัฐบาลจีน และมหาวิทยาลัยนั้นๆมีคณะหรือสาขาวิชาไหนบ้างที่สามารถขอทุนได้ ในเว็บนี้จะบอกช่วงเวลาในการเปิด-ปิดรับสมัครทุนด้วยนะคะ ระวังให้ดีเน้อ อย่าเตรียมเอกสารเพลินจนลืมเวลานะคะ บางมหาวิทยาลัยดังๆจะเปิด-ปิดรับสมัครเร็วมากกกกกกกกกกกกกกกกก แต่ก็แอบมีหลายเสียงบอกว่าเวลารับสมัครในเว็บไม่ได้อัพเดทนานแล้ว เชื่อไม่ค่อยได้ แต่โดยปกติแล้วทุนจะเปิดรับสมัครตอนเดือนพฤศจิกายน-กลางเมษายนค่ะ จัมค่ะ!!!!!!!!!
1) เมื่อเข้าเว็บแล้วจะเจอหน้าเพจแบบนี้ เราสามารถกดเลือกที่ Province เพื่อที่จะเช็คได้ว่ามณฑลนั้นๆมีมหาวิทยาลัยไหนที่co-operationกับทุนรัฐบาลจีนบ้าง
2) พอเลือกแล้วหน้าเว็บก็จะขึ้นแบบข้างล่างนี้เลยจย้าา ใครใคร่มณฑลไหน มหาวิทยาลัยไหน จิ้มๆเข้าไปเช็คเลยค่าาา- เพิ่มเติม : มหาวิทยาลัยปักกิ่งหรือเป่ยต้าไม่มีทุนสำหรับป.ตรีนะคะ เป่ยต้าจะต้องสอบแข่งขันผ่านสถาบันขงจื๊อในช่วงธันวาคมของทุกปีค่ะ มี 2 รอบ รอบข้อเขียน (ระดับภาค) และรอบสัมภาษณ์ (ระดับประเทศ) แต่ทุนนี้จะเป็นทุน preparation นะคะ ต้องเรียนภาษาก่อน 1 ปี แล้วไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกรอบค่ะ
3) เราจะสมมติให้ดู เราจะไปที่มณฑลกว่างตง แล้วก็ไปจิ้มที่ Sun Yat-sen University (มหาวิทยาลัยน้องเองงง) ในนี้เราสามารถเช็คประวัติของมหาวิทยาลัย ระดับการศึกษาที่เราจะขอทุน คณะที่เราสามารถขอทุนได้ รายละเอียดทุนและเวลาเปิด-ปิดรับสมัครทุนค่ะ ที่เห็นเป็นตารางแค่นิดเดียวนี่คือยังไม่หมดนะคะ เราต้องไปกดที่ --> All Program
4) พอกด All Program แล้ว ก็จะขึ้นแบบนี้เลย....
อธิบายเพิ่มเติมในส่วน Application Deadline กันนิดนึงนะคะ กลัวจะงงกัน
ตัวเลข 5-5 นี้ก็คือ
เลข 5 ข้างหน้า = เดือน5 หรือเดือนพฤษภาคม
เลข 5 ข้างหลัง = วันที่ 5
สรุปได้ว่า เดดไลน์ของการสมัครคือวันที่ 5 เดือนพฤษภาคมนั่นเองค่ะ
***แต่ทางที่ดีไม่ว่าจะขอทุนมหาวิทยาลัยไหนไป ก็ไม่ควรเกินเดือนมีนาคมนะคะ เพื่อความปลอดภัย***
- เช็คข้อมูลกันเรียบร้อยแล้ว มาสู่ขั้นตอนของการสมัครกันเลยจาาา
1) พอเราเปิดเว็บไป สังเกตมุมซ้ายบนรัวๆเลย จะเห็นคำว่า Application online จากนั้นก็กดสิคะ มัวรออะไรอยู่วววว
2) พอกดแล้วก็จะมีเงื่อนไขบอกเราในหน้าถัดไปค่ะ ว่าเราควรจะต้องขอทุนประเภทไหน มี 3 type ค่ะ
เป็นทุนรัฐบาลเหมือนกันทั้งหมด แต่จะแตกต่างกันตรงที่วิธีการส่งเอกสารค่ะ
Type A : จะต้องยื่นเอกสารผ่านสถานทูต โดยใส่รหัสเลขสถานทูตจีนในประเทศนั้นๆ ส่วนประเทศไทยจะเป็นเลข "7642" (วิธีนี้จะเป็นสำหรับของป.ตรีค่ะ)
Type B : จะต้องยื่นเอกสารผ่านมหาวิทยาลัยที่เราต้องการจะสมัคร คือส่งเอกสารไปมหาวิทยาลัยจีนโดยตรงเลย
Type C : เป็นทุนแบบ special ซึ่งต้องมีรหัสพิเศษที่สถานทูตหรือหน่วยงานให้มาค่ะ
3) ถัดไปจะเป็นหน้านี้ค่ะ register ก่อนตามปกติ เสร็จแล้วไปกรอกข้อมูลกัน!!
4) อันนี้เราก็ไปที่ Application online แล้วกรอกข้อมูลตามปกติเลยค่ะ ข้อมูลต้องกรอกเฉพาะภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษเท่านั้นนะจ๊ะ
5) แต่จะมีพาร์ทสุดท้าย (Supporting Document) ที่ให้เราอัพโหลดเอกสาร เราต้องสแกนเอกสารตัวจริงที่มีตราประทับ + ลายเซ็น และเอกสารที่เป็นภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษเท่านั้นน้าา
- เพิ่มเติม : ช่องที่บอก Yes คือเอกสารที่จำเป็นต้องอัพโหลดนะคะ
อ่ะ! เรารู้แล้วว่าจะเช็คข้อมูลแบบไหนและมีวิธีการสมัครยังไง แต่ว่าเรายังไม่ได้บอกกันเรื่องการเตรียมเอกสารจำเป็นใช่มั้ยล่ะคะ... มามะ เดี๋ยวน้องจะบอกให้อย่างละเอียดเลยค่ะซิสสสสส
พาร์ทเตรียมเอกสาร!!!!!!!
ก่อนอื่นอยากจะแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับกลุ่มใน Facebook ที่ดีมากๆกลุ่มหนึ่ง คือ “ Thai CSC ”
เป็นกลุ่มเพื่อการขอทุนไปเรียนต่อจีนโดยเฉพาะ จะมีข่าวสารเกี่ยวกับการขอทุนมาอัพเดทอยู่ตลอดเวลา มีคำแนะนำ คำถาม คำตอบดีๆไว้ให้ทุกคนแน่นอน ;)
เอกสารทั้งหมดทั้งมวลที่ต้องเตรียม ได้แก่... (ปล. เอกสารทุกอย่างต้องเตรียมไว้อย่างละ 2 ชุดนะคะ)
1. ผลสอบHSK/HSKK หรือ ผลสอบด้านภาษาอังกฤษที่ต้องมีใบรับรองอย่างถูกต้อง
ที่เรายื่นไปคือ HSK ระดับ5 และ HSKK ระดับกลางค่ะ
ผล HSK มีอายุอยู่ได้ 2 ปีนะคะ
2. เกรดเฉลี่ย 6 เทอม (Transcript)
หรืออาจเป็น 5 เทอมแต่มีใบรับรองคาดว่าเราจะจบแล้วก็ได้ เพราะบางทีเกรดม.6เทอม2บางโรงเรียนอาจจะออกช้าไป
3. Study Plan (学习计划)
สามารถเข้าไปดูในกลุ่ม Thai CSC ได้เลยค่ะ จะเขียนเป็นภาษาอังกฤษหรือจีนก็ได้ค่ะ แต่ท้ายเอกสารต้องมีลายเซ็นของเรานะคะ
การเขียน Study Plan ก็จะแนะนำตัวเรา ผลงาน เกรดเฉลี่ย ส่วนใหญ่เกี่ยวกับว่าทำไมถึงเลือกคณะนี้ มหาวิทยาลัยนี้ ในอนาคตจะทำอะไร พัฒนาอะไรได้บ้าง ประมาณนี้ค่ะ
ขออนุญาตเจ้าของ Study Plan นี้ที่เราได้แคปมาจากกลุ่ม Thai CSC นะคะ
![]() |
ที่มา : https://lookaside.fbsbx.com/file/study%20and%20research%20plan_international_trade.pdf Facebook ผู้โพสต์ : Pagon Gatchalee |
Ps. Study plan สามารถดูเป็นแนวทางได้นะคะ แต่ห้ามก็อปปี้ของคนอื่นเด็ดขาด ลองร่างของตัวเองแล้วให้อาจารย์คนจีนช่วยดูให้จะดีที่สุดนะคะ ด้วยความปรารถนาดีจากจ้า
4. ใบแนะนำตัวจากอาจารย์ (推荐信 , Recommendation Letter)
ในส่วนของเราคือให้อาจารย์คนไทยที่สอนภาษาจีนที่รู้จักเราดี เคยสอนเราเขียนให้พร้อมลายเซ็น 1 ท่าน และอาจารย์คนจีนอีก 1 ท่านค่ะ
5. ใบรับรองจบ (毕业证书)
อันนี้สามารถขอที่โรงเรียนได้นะคะ เอกสารที่ส่งไปต้องเป็นตัวจริง เพราะฉะนั้นขอเผื่อไว้เลยค่ะ
6. Passport (护照)
อันนี้จำเป็นต้องมีเลยนะคะ ไม่งั้นสมัครทุนไม่ได้แน่นอน 100%เลยค่ะ
7. ใบตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์(体检)
(http://www.csc.edu.cn/uploads/forms/foreinphy.pdf)
++ได้โปรดดาวน์โหลดและปริ้นท์แบบฟอร์มการตรวจสุขภาพตามลิ้งค์ที่ให้ไว้ 2 ชุดนะคะ พร้อมเตรียมรูปถ่ายไปให้เรียบร้อยเด้อ ส่วนขั้นตอนการตรวจเราจะไม่อธิบายนะจ๊ะ ให้ไปเจอของจริงที่โรงพยาบาลเอ๊งงงง ตรวจเสร็จเรียบร้อย สามารถบอกพี่พยาบาลได้เลยค่ะว่า ขอก็อปปี้ผลการตรวจอีกชุดหนึ่ง เพิ่มเงิน 200 บาท และรอผล 3-4 วันค่ะ
8. แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
ในส่วนของพอร์ตขอบอกก่อนว่าอันนี้เป็นความสมัครใจและความอุ่นใจที่จะทำนะคะ ใครจะทำหรือไม่ทำก็ได้จ้า เพราะพอร์ตที่เราทำคือเราทำเพื่อไปสอบสัมภาษณ์มหาวิทยาลัยในไทยด้วยและเพื่อยื่นขอทุนด้วย คือในพอร์ตเราจะทำเป็นภาษาอังกฤษ+ภาษาจีนค่ะ ปล.อันนี้เป็นหน้าที่ภูมิใจที่สุดในพอร์ต555555
พาร์ทหลังเตรียมเอกสารเสร็จ
- พอเตรียมเอกสารเสร็จ เราไปก็นำเอกสารไปสแกนแล้วอัพโหลดในเว็บที่เราสมัครออนไลน์ ตรง Supporting Document ได้เลยค่ะ
- หลังจากอัพโหลดเสร็จหมดแล้ว ก็กดส่งแบบฟอร์ม แล้วก็ปริ้นออกมาได้เลย อย่าลืมนะคะ 2 ชุดค่ะ 2ชุด
3. นำเอกสารทั้งหมดทั้งมวลเรียงให้เรียบร้อย ใส่ซองสวยๆไปส่งที่สถานทูตเลยจ้า ที่จำได้คือสถานทูตฝ่ายการศึกษาจะเปิดแค่วันอังคารและวันศุกร์ (อันนี้จำรายละเอียดแบบเป๊ะๆไม่ได้เด้อ แงงงง)
- เพิ่มเติม : ควรไปปส่งเอกสารที่สถานทูตเองกับมือ ไม่ควรส่งผ่านไปรษณีย์ เอกสารเราจะได้ไม่ตกหล่น
- ที่อยู่สำหรับส่งเอกสาร : อาคาร เอเอ ชั้น 3 เลขที่ 55 ถนน รัชดาภิเษก ซอย 3 กรุงเทพฯ 10400
- อาจารย์ที่เขาดูแลอยู่ที่นั้นไม่พูดไทยนะคะ จีนล้วนๆเลยค่า
พาร์ทหลังสมัคร
ทำใจรอ ภาวนา สวดมนต์ ทำดีให้มากๆค่ะ ผลบุญจะได้ส่งไปให้เราได้ทุน 5555 ขำๆเนอะ แต่ตอนรอจริงไม่ขำเลยค่ะ เช็คเมล รอโทรศัพท์โทรมาทุกวัน จำได้ว่าตอนนั้นเราผลทุนออกช่วงมิถุนายน พร้อมๆกับผลแอดมิดชั่นของเพื่อนๆ แต่ก่อนหน้านี้เราได้มหาวิทยาลัยในไทยแล้ว คืออีกวันเดียวจะไปเรียนละ แต่โชคดีโทรถามสถานทูตก่อน ดีใจกรี๊ดขี้แตก 555 การรอคอยเป็นผลสำเร็จอะไรงี้ เก็บความดีใจตอนติดมหาวิทยาลัย/ติดทุนไว้นะคะทุกคน ชีวิตหลังจากนี้ไม่ง่ายเลย นรกล้วนๆ ชั้นแอนตี้การเรียนนนนนนน!!!!
พอเราไปเอาใบแจ้งทุน? (录取通知书) ก็เตรียมตัวไปทำวีช่า ตรวจสุขภาพใหม่อีกรอบนึงค่ะ เพราะผลตรวจสุขภาพมีอายุแค่ 3 เดือนเอง
พาร์ทแนะนำเพิ่มเติม
- ทุนการศึกษาไปเรียนต่อประเทศจีนไม่ได้มีแค่ทุนรัฐบาลอย่างเดียวนะคะ ยังมีทุนของสถาบันขงจื๊อ (孔子学院)ทุน one belt one road (一带一路)ทุนของมหาวิทยาลัยต่างๆมากมาย หรืออยากแค่ไปเรียนภาษาในระยะเวลาสั้นๆก็แนะนำทุนขงจื๊อจ้า
- เมื่อเรารู้แล้วว่าทุนจีนเยอะขนาดนี้ เอนี่เวย์ทุกคนควรจะเลือกสมัครทุนใดทุนหนึ่งนะคะ อย่างเช่น ถ้าสมัครทุนรัฐบาลจีนแล้วก็ไม่ควรสมัครทุนขงจื๊อหรือทุนอื่นอีก ถ้าเราจับปลาหลายมือแบบนี้จะกลายเป็นว่าถ้าเราติดทั้ง2ทุน ถ้าเช็คแล้วรู้ เราจะโดนตัดทั้ง 2 ทุนเลยนะคะ
- ศึกษารายละเอียดของแต่ละทุนให้ดีก่อนตัดสินใจสมัครแล้วต้องเตรียมทุกอย่างด้วยความรอบคอบนะคะ
- ค่าใช้จ่ายรายเดือนของทุนรัฐบาลจีนและทุนขงจื๊อคือ 2500 หยวน ปิดเทอมก็ยังให้เราอยู่นะคะ เลี้ยงดูอย่างดี (ป้ายยาแป๊ป)
- การเรียนที่จีนดีมากค่ะ กดดันดี ยิ่งเรียนกับคนจีนแล้วด้วย แต่นี่คือการพัฒนาตัวเองอย่างหนึ่งเนอะ 55
- อยากบอกทุกคนว่าอย่ากลัวประเทศจีนค่ะ จีนปี2018แล้ว ไม่ได้เหมือนจีนที่เราเคยฟังใครพูดมา เราชอบสังคม ความสะดวกและหลายๆอย่างที่บ้านเรายังทำไม่ได้ ลองไปสัมผัสกันดูน้าา
- เดี๋ยวว่างๆจะทำคลิปรีวิวชีวิตมหาวิทยาลัยในจีนให้ดู เรียนกับคนจีนเป็นไง ยากไหม กดดันไหม รอน้องนะ
ขออวยพรให้ทุกคนที่กำลังจะขอทุนประสบความสำเร็จนะคะ
see ya!!
再见老爹们!