วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

CSC Bachelor Scholarship ขอทุนรัฐบาลจีนป.ตรี ไม่อยากอย่างที่คิด!

สวัสดีค่ะ sis bro ทุกคน  เรานักเรียนทุนป.ตรีสดๆร้อนๆ ปี 2017 นี้เองค่ะ กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยซุนยัตเซ็น ( Sun Yat-Sen university,中山大学)คณะการจัดการการท่องเที่ยวค่ะ ( Tourism Management , 旅游学院)อ่ะจ่ะ น้องบรรยายสรรพคุณของตัวเองมาพอแล้ว มาค่ะมาเข้าสาระกันดีกว่าค่ะ 

จุดประสงค์ของกระทู้นี้คือ 
  1. เราต้องการจะบอกทุกๆคนว่าการขอทุนไม่ได้น่ากลัว และการไปเรียนต่างประเทศ โดยเฉพาะที่จีน มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะจ๊ะ 
  2. กระทู้นี้เป็นกระทู้แก้บนด้วยค่ะ 555 แล้วก็อยากแชร์ประสบการการขอทุนที่มีขั้นตอนค่อนข้างซับซ้อนให้รุ่นน้องที่โรงเรียนด้วย 
  3. เนื่องจากทุนรัฐบาลจีนสำหรับป.ตรี (CSC, 中国政府奖学金) เพิ่งเปิดสำหรับป.ตรีมาแค่ 2-3ปี จึงมีข้อมูลสำหรับป.ตรีค่อนข้างน้อย เราเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์เราแบบไม่กั๊กเลย

การเตรียมตัวสำหรับการขอทุนคือ 
  1. เตรียมใจให้พร้อมค่ะ ว่าเราจะสามารถพาตัวเราไปทำเอกสารเยอะแยะตั่งต่างได้รึป่าว เพราะเอกสารสำหรับการขอทุนเยอะและต้องละเอียดจริงๆค่ะ เพราะส่วนมากเป็นเอกสารราชการที่ต้องประทับตราค่ะ โรงเรียนบางโรงเรียนอาจจะไม่ออกให้ง่ายๆค่ะ เอกสารตัวไหนที่คิดว่าต้องใช้เวลานาน ควรเตรียมล่วงหน้านะคะ
  2. หา motivation สำหรับการขอทุน สำหรับเรา ทุนคือของหวาน (อินเนอร์มธุสรนิดๆ) เพราะทุนรัฐบาลจีนคือฟรี 100%ค่ะ ไม่ต้องกลับมาทำงานใช้ทุน ให้ค่าเรียน ค่าหอ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว พูดได้ว่าเป็นทุกอย่างให้เธอแล้วจริงๆค่ะ ดีขนาดนี้ ฟรีขนาดนี้ ทำไมจะไม่ลองขอดูล่ะคะ มูฟออนค่ะ ไปหาข้อมูลกัน!!!

เราจะแบ่งขั้นตอนเป็นก่อนการสมัคร / ขั้นตอนการสมัคร / หลังการสมัคร เป็น 3 พาร์ทแบบนี้เพื่อความเข้าใจง่ายนะคะ

พาร์ทก่อนการสมัคร
  1. ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักทุนรัฐบาลจีน(中国政府奖学金)กันพอประมาณก่อนดีกว่า 
ทุนรัฐบาลจีนคืออะไร?? 
http://inter.mua.go.th/2017/03/ทุนรัฐบาลจีนประจำปีการ/#.WpUH2maB1mB 
ลิ้งค์นี่บอกความเป็นมาแบบสังเขปแล้วนะคะ ที่จริงในลิ้งค์มีรายละเอียดและข้อกำหนดของการขอทุนอยู่บ้างแล้ว สามารถเข้าไปอ่านทำความขำใจก่อนได้เลยค่ะ
  1. เช็ค ranking ของมหาวิทยาลัยในจีนค่ะ เพราะส่วนตัวเราคิดว่า ranking เป็นแรงจูงใจอย่างหนึ่งที่ทำให้เราอยากไปเรียนมหาวิทยาลัยนั้นๆ เพราะยิ่งอันดับของมหาวิทยาลัยยิ่งสูงมากเท่าหร่ การลงทุนของรัฐบาลที่มีต่อการศึกษาก็มากขึ้นไปเท่านั้น ยกตัวอย่างมหาวิทยาลัยที่ทุกคนรู้จัก เช่น Beijing University (北大),Tsinghua(清华) เรามาดูตัวเลขเด็ดในการเช็คลำดับมหาวิทยาลัยกันดีกว่าค่าา     211985   สองตัวนี้จำให้แม่น 

- 211 คือมหาวิทยาลัยรัฐบาลที่ดีในจีน มี 114 แห่ง 
- 985 คือมหาวิทยลัยที่ดีที่สุดในจีน 39 แห่ง 

                      ตัวอย่างบางส่วนของมหาวิทยาลัยในกลุ่ม 985 
                  ที่มา : http://www.huanqiumil.com/a/19170.html
  
3. เช็ค ranking แล้ว งั้นต่อมาก็ลองเช็คสภาพอากาศ สภาพแวดล้อมต่างๆ เพราะเราต้องอยู่ที่นั่นกันเป็นปีๆเด้อ ใครไม่ชอบอากาศหนาวจัด ก็เลือกทางตอนใต้ของประเทศจีนก็ได้ ส่วนหน้าร้อน ร้อนพอกันหมดทุกที่เลยค่ะ ใครสะดวกแบบไหนก็เลือกตามนั้นเลยเด้อ


พาร์ทขั้นตอนการเตรียมเอกสารและการสมัคร 

1. เว็บที่ต้องรู้ในการสมัครทุนมี 2 เว็บหลักๆค่ะ 
เว็บนี้สำหรับการศึกษาหาข้อมูลเพื่อเช็ครายละเอียดเอกสารต่างๆและข้อกำหนดที่ใช้สำหรับการขอทุนค่ะ ขอย้ำเลยว่าขอให้ทุกคน***อ่านหลายๆรอบ อ่านให้ละเอียด***  เว็บนี้จะมีทั้งเวอร์ชั่นภาษาไทยและภาษาจีนนะคะ ^^



ตัวอย่างรายละเอียดเว็บ

เว็บนี้สำหรับการเช็คข้อมูลและสมัครออนไลน์
- เช็คข้อมูลคือ เช็คว่ามีมหาวิทยาลัยไหนบ้างที่มีทุนรัฐบาลจีน และมหาวิทยาลัยนั้นๆมีคณะหรือสาขาวิชาไหนบ้างที่สามารถขอทุนได้ ในเว็บนี้จะบอกช่วงเวลาในการเปิด-ปิดรับสมัครทุนด้วยนะคะ ระวังให้ดีเน้อ อย่าเตรียมเอกสารเพลินจนลืมเวลานะคะ บางมหาวิทยาลัยดังๆจะเปิด-ปิดรับสมัครเร็วมากกกกกกกกกกกกกกกกก  แต่ก็แอบมีหลายเสียงบอกว่าเวลารับสมัครในเว็บไม่ได้อัพเดทนานแล้ว เชื่อไม่ค่อยได้  แต่โดยปกติแล้วทุนจะเปิดรับสมัครตอนเดือนพฤศจิกายน-กลางเมษายนค่ะ จัมค่ะ!!!!!!!!!

    1) เมื่อเข้าเว็บแล้วจะเจอหน้าเพจแบบนี้ เราสามารถกดเลือกที่ Province เพื่อที่จะเช็คได้ว่ามณฑลนั้นๆมีมหาวิทยาลัยไหนที่co-operationกับทุนรัฐบาลจีนบ้าง

 

    2) พอเลือกแล้วหน้าเว็บก็จะขึ้นแบบข้างล่างนี้เลยจย้าา ใครใคร่มณฑลไหน มหาวิทยาลัยไหน จิ้มๆเข้าไปเช็คเลยค่าาา  
 - เพิ่มเติม :  มหาวิทยาลัยปักกิ่งหรือเป่ยต้าไม่มีทุนสำหรับป.ตรีนะคะ  เป่ยต้าจะต้องสอบแข่งขันผ่านสถาบันขงจื๊อในช่วงธันวาคมของทุกปีค่ะ มี 2 รอบ รอบข้อเขียน (ระดับภาค) และรอบสัมภาษณ์ (ระดับประเทศ) แต่ทุนนี้จะเป็นทุน preparation นะคะ ต้องเรียนภาษาก่อน 1 ปี แล้วไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกรอบค่ะ



3) เราจะสมมติให้ดู เราจะไปที่มณฑลกว่างตง แล้วก็ไปจิ้มที่ Sun Yat-sen University (มหาวิทยาลัยน้องเองงง) ในนี้เราสามารถเช็คประวัติของมหาวิทยาลัย  ระดับการศึกษาที่เราจะขอทุน คณะที่เราสามารถขอทุนได้  รายละเอียดทุนและเวลาเปิด-ปิดรับสมัครทุนค่ะ    ที่เห็นเป็นตารางแค่นิดเดียวนี่คือยังไม่หมดนะคะ  เราต้องไปกดที่ -->  All Program


    4) พอกด ​All Program แล้ว ก็จะขึ้นแบบนี้เลย....
อธิบายเพิ่มเติมในส่วน Application Deadline กันนิดนึงนะคะ กลัวจะงงกัน
ตัวเลข 5-5 นี้ก็คือ
เลข 5 ข้างหน้า = เดือน5 หรือเดือนพฤษภาคม
เลข 5 ข้างหลัง = วันที่ 5
สรุปได้ว่า เดดไลน์ของการสมัครคือวันที่ 5 เดือนพฤษภาคมนั่นเองค่ะ
***แต่ทางที่ดีไม่ว่าจะขอทุนมหาวิทยาลัยไหนไป ก็ไม่ควรเกินเดือนมีนาคมนะคะ เพื่อความปลอดภัย***


- เช็คข้อมูลกันเรียบร้อยแล้ว มาสู่ขั้นตอนของการสมัครกันเลยจาาา 
1) พอเราเปิดเว็บไป สังเกตมุมซ้ายบนรัวๆเลย จะเห็นคำว่า Application online จากนั้นก็กดสิคะ มัวรออะไรอยู่วววว


 
     2) พอกดแล้วก็จะมีเงื่อนไขบอกเราในหน้าถัดไปค่ะ ว่าเราควรจะต้องขอทุนประเภทไหน มี 3 type ค่ะ
เป็นทุนรัฐบาลเหมือนกันทั้งหมด แต่จะแตกต่างกันตรงที่วิธีการส่งเอกสารค่ะ
Type A : จะต้องยื่นเอกสารผ่านสถานทูต โดยใส่รหัสเลขสถานทูตจีนในประเทศนั้นๆ ส่วนประเทศไทยจะเป็นเลข "7642"  (วิธีนี้จะเป็นสำหรับของป.ตรีค่ะ)
Type B : จะต้องยื่นเอกสารผ่านมหาวิทยาลัยที่เราต้องการจะสมัคร คือส่งเอกสารไปมหาวิทยาลัยจีนโดยตรงเลย
Type C : เป็นทุนแบบ special ซึ่งต้องมีรหัสพิเศษที่สถานทูตหรือหน่วยงานให้มาค่ะ 





  
    3) ถัดไปจะเป็นหน้านี้ค่ะ register ก่อนตามปกติ เสร็จแล้วไปกรอกข้อมูลกัน!!


    4) อันนี้เราก็ไปที่ Application online แล้วกรอกข้อมูลตามปกติเลยค่ะ ข้อมูลต้องกรอกเฉพาะภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษเท่านั้นนะจ๊ะ



5) แต่จะมีพาร์ทสุดท้าย (Supporting Document) ที่ให้เราอัพโหลดเอกสาร เราต้องสแกนเอกสารตัวจริงที่มีตราประทับ + ลายเซ็น และเอกสารที่เป็นภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษเท่านั้นน้าา
- เพิ่มเติม : ช่องที่บอก Yes คือเอกสารที่จำเป็นต้องอัพโหลดนะคะ



อ่ะ! เรารู้แล้วว่าจะเช็คข้อมูลแบบไหนและมีวิธีการสมัครยังไง แต่ว่าเรายังไม่ได้บอกกันเรื่องการเตรียมเอกสารจำเป็นใช่มั้ยล่ะคะ... มามะ เดี๋ยวน้องจะบอกให้อย่างละเอียดเลยค่ะซิสสสสส


พาร์ทเตรียมเอกสาร!!!!!!!

 ก่อนอื่นอยากจะแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับกลุ่มใน Facebook ที่ดีมากๆกลุ่มหนึ่ง คือ “ Thai CSC ”
เป็นกลุ่มเพื่อการขอทุนไปเรียนต่อจีนโดยเฉพาะ จะมีข่าวสารเกี่ยวกับการขอทุนมาอัพเดทอยู่ตลอดเวลา มีคำแนะนำ คำถาม คำตอบดีๆไว้ให้ทุกคนแน่นอน ;)

เอกสารทั้งหมดทั้งมวลที่ต้องเตรียม ได้แก่... (ปล. เอกสารทุกอย่างต้องเตรียมไว้อย่างละ 2 ชุดนะคะ)
1. ผลสอบHSK/HSKK หรือ ผลสอบด้านภาษาอังกฤษที่ต้องมีใบรับรองอย่างถูกต้อง
ที่เรายื่นไปคือ ​HSK ระดับ5 และ HSKK ระดับกลางค่ะ 
ผล HSK มีอายุอยู่ได้ 2 ปีนะคะ

2. เกรดเฉลี่ย 6 เทอม (Transcript)
หรืออาจเป็น 5 เทอมแต่มีใบรับรองคาดว่าเราจะจบแล้วก็ได้ เพราะบางทีเกรดม.6เทอม2บางโรงเรียนอาจจะออกช้าไป 

3. Study Plan (学习计划)
สามารถเข้าไปดูในกลุ่ม Thai CSC ได้เลยค่ะ จะเขียนเป็นภาษาอังกฤษหรือจีนก็ได้ค่ะ แต่ท้ายเอกสารต้องมีลายเซ็นของเรานะคะ 
การเขียน Study Plan ก็จะแนะนำตัวเรา ผลงาน เกรดเฉลี่ย ส่วนใหญ่เกี่ยวกับว่าทำไมถึงเลือกคณะนี้ มหาวิทยาลัยนี้ ในอนาคตจะทำอะไร พัฒนาอะไรได้บ้าง ประมาณนี้ค่ะ

ขออนุญาตเจ้าของ Study Plan นี้ที่เราได้แคปมาจากกลุ่ม Thai CSC  นะคะ

ที่มา : https://lookaside.fbsbx.com/file/study%20and%20research%20plan_international_trade.pdf
Facebook ผู้โพสต์ : Pagon Gatchalee
Ps. Study plan สามารถดูเป็นแนวทางได้นะคะ แต่ห้ามก็อปปี้ของคนอื่นเด็ดขาด ลองร่างของตัวเองแล้วให้อาจารย์คนจีนช่วยดูให้จะดีที่สุดนะคะ ด้วยความปรารถนาดีจากจ้า

4. ใบแนะนำตัวจากอาจารย์ (推荐信​ , Recommendation Letter)
ในส่วนของเราคือให้อาจารย์คนไทยที่สอนภาษาจีนที่รู้จักเราดี เคยสอนเราเขียนให้พร้อมลายเซ็น 1 ท่าน และอาจารย์คนจีนอีก 1 ท่านค่ะ

5. ใบรับรองจบ (毕业证书)
อันนี้สามารถขอที่โรงเรียนได้นะคะ เอกสารที่ส่งไปต้องเป็นตัวจริง เพราะฉะนั้นขอเผื่อไว้เลยค่ะ

6. Passport (护照)
อันนี้จำเป็นต้องมีเลยนะคะ ไม่งั้นสมัครทุนไม่ได้แน่นอน 100%เลยค่ะ

7. ใบตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์(体检)
(http://www.csc.edu.cn/uploads/forms/foreinphy.pdf)


++ได้โปรดดาวน์โหลดและปริ้นท์แบบฟอร์มการตรวจสุขภาพตามลิ้งค์ที่ให้ไว้ 2 ชุดนะคะ พร้อมเตรียมรูปถ่ายไปให้เรียบร้อยเด้อ ส่วนขั้นตอนการตรวจเราจะไม่อธิบายนะจ๊ะ ให้ไปเจอของจริงที่โรงพยาบาลเอ๊งงงง ตรวจเสร็จเรียบร้อย สามารถบอกพี่พยาบาลได้เลยค่ะว่า ขอก็อปปี้ผลการตรวจอีกชุดหนึ่ง เพิ่มเงิน 200 บาท และรอผล 3-4 วันค่ะ 

8.  แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
ในส่วนของพอร์ตขอบอกก่อนว่าอันนี้เป็นความสมัครใจและความอุ่นใจที่จะทำนะคะ ใครจะทำหรือไม่ทำก็ได้จ้า เพราะพอร์ตที่เราทำคือเราทำเพื่อไปสอบสัมภาษณ์มหาวิทยาลัยในไทยด้วยและเพื่อยื่นขอทุนด้วย คือในพอร์ตเราจะทำเป็นภาษาอังกฤษ+ภาษาจีนค่ะ ปล.อันนี้เป็นหน้าที่ภูมิใจที่สุดในพอร์ต555555




พาร์ทหลังเตรียมเอกสารเสร็จ

  1. พอเตรียมเอกสารเสร็จ เราไปก็นำเอกสารไปสแกนแล้วอัพโหลดในเว็บที่เราสมัครออนไลน์ ตรง Supporting Document ได้เลยค่ะ
  2. หลังจากอัพโหลดเสร็จหมดแล้ว ก็กดส่งแบบฟอร์ม แล้วก็ปริ้นออกมาได้เลย อย่าลืมนะคะ 2 ชุดค่ะ 2ชุด


   3. นำเอกสารทั้งหมดทั้งมวลเรียงให้เรียบร้อย ใส่ซองสวยๆไปส่งที่สถานทูตเลยจ้า ที่จำได้คือสถานทูตฝ่ายการศึกษาจะเปิดแค่วันอังคารและวันศุกร์ (อันนี้จำรายละเอียดแบบเป๊ะๆไม่ได้เด้อ แงงงง)
- เพิ่มเติม : ควรไปปส่งเอกสารที่สถานทูตเองกับมือ ไม่ควรส่งผ่านไปรษณีย์ เอกสารเราจะได้ไม่ตกหล่น
- ที่อยู่สำหรับส่งเอกสาร : อาคาร เอเอ ชั้น 3 เลขที่ 55 ถนน รัชดาภิเษก ซอย 3 กรุงเทพฯ  10400
- อาจารย์ที่เขาดูแลอยู่ที่นั้นไม่พูดไทยนะคะ จีนล้วนๆเลยค่า 


พาร์ทหลังสมัคร

ทำใจรอ ภาวนา สวดมนต์ ทำดีให้มากๆค่ะ ผลบุญจะได้ส่งไปให้เราได้ทุน 5555 ขำๆเนอะ แต่ตอนรอจริงไม่ขำเลยค่ะ เช็คเมล รอโทรศัพท์โทรมาทุกวัน จำได้ว่าตอนนั้นเราผลทุนออกช่วงมิถุนายน พร้อมๆกับผลแอดมิดชั่นของเพื่อนๆ แต่ก่อนหน้านี้เราได้มหาวิทยาลัยในไทยแล้ว คืออีกวันเดียวจะไปเรียนละ แต่โชคดีโทรถามสถานทูตก่อน ดีใจกรี๊ดขี้แตก 555 การรอคอยเป็นผลสำเร็จอะไรงี้ เก็บความดีใจตอนติดมหาวิทยาลัย/ติดทุนไว้นะคะทุกคน ชีวิตหลังจากนี้ไม่ง่ายเลย นรกล้วนๆ ชั้นแอนตี้การเรียนนนนนนน!!!!
พอเราไปเอาใบแจ้งทุน? (录取通知书) ก็เตรียมตัวไปทำวีช่า ตรวจสุขภาพใหม่อีกรอบนึงค่ะ เพราะผลตรวจสุขภาพมีอายุแค่ 3 เดือนเอง


พาร์ทแนะนำเพิ่มเติม

  1. ทุนการศึกษาไปเรียนต่อประเทศจีนไม่ได้มีแค่ทุนรัฐบาลอย่างเดียวนะคะ ยังมีทุนของสถาบันขงจื๊อ (孔子学院)ทุน one belt one road (一带一路)ทุนของมหาวิทยาลัยต่างๆมากมาย หรืออยากแค่ไปเรียนภาษาในระยะเวลาสั้นๆก็แนะนำทุนขงจื๊อจ้า
  2. เมื่อเรารู้แล้วว่าทุนจีนเยอะขนาดนี้ เอนี่เวย์ทุกคนควรจะเลือกสมัครทุนใดทุนหนึ่งนะคะ อย่างเช่น ถ้าสมัครทุนรัฐบาลจีนแล้วก็ไม่ควรสมัครทุนขงจื๊อหรือทุนอื่นอีก ถ้าเราจับปลาหลายมือแบบนี้จะกลายเป็นว่าถ้าเราติดทั้ง2ทุน ถ้าเช็คแล้วรู้ เราจะโดนตัดทั้ง 2 ทุนเลยนะคะ  
  3. ศึกษารายละเอียดของแต่ละทุนให้ดีก่อนตัดสินใจสมัครแล้วต้องเตรียมทุกอย่างด้วยความรอบคอบนะคะ
  4. ค่าใช้จ่ายรายเดือนของทุนรัฐบาลจีนและทุนขงจื๊อคือ 2500 หยวน ปิดเทอมก็ยังให้เราอยู่นะคะ เลี้ยงดูอย่างดี (ป้ายยาแป๊ป)
  5. การเรียนที่จีนดีมากค่ะ กดดันดี ยิ่งเรียนกับคนจีนแล้วด้วย แต่นี่คือการพัฒนาตัวเองอย่างหนึ่งเนอะ 55
  6. อยากบอกทุกคนว่าอย่ากลัวประเทศจีนค่ะ จีนปี2018แล้ว ไม่ได้เหมือนจีนที่เราเคยฟังใครพูดมา เราชอบสังคม ความสะดวกและหลายๆอย่างที่บ้านเรายังทำไม่ได้ ลองไปสัมผัสกันดูน้าา
  7. เดี๋ยวว่างๆจะทำคลิปรีวิวชีวิตมหาวิทยาลัยในจีนให้ดู เรียนกับคนจีนเป็นไง ยากไหม กดดันไหม รอน้องนะ
ขออวยพรให้ทุกคนที่กำลังจะขอทุนประสบความสำเร็จนะคะ 
see ya!!
再见老爹们!









CSC Bachelor Scholarship ขอทุนรัฐบาลจีนป.ตรี ไม่อยากอย่างที่คิด!

สวัสดีค่ะ sis bro  ทุกคน   เรานักเรียนทุนป . ตรีสดๆร้อนๆ ปี 2017 นี้เองค่ะ กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยซุนยัตเซ็น ( Sun Yat-Sen univer...